ชาทอง
ชาทอง
จัดเป็นไม้ประดับใบที่นิยมปลูกชนิดหนึ่ง เนื่องจากให้ใบสีเหลืองทองสวยงาม แตกกิ่ง และใบตลอดทั้งปี นิยมใช้ปลูกเป็นแถวบริเวณหน้าบ้าน ปลูกเป็นรั้วบ้าน ปลูกจัดสวน
และปลูกในกระถาง
• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Duranta
erecta L. • ชื่อวงศ์ : Verbenaceae • ชื่อสามัญ: Golden Dewdrop, Japan Camillia, Pigeon berry
• ชื่อพื้นเมือง : ชาทอง, พวงม่วง, เทียนพญาอินทร์
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
1. ลำต้น
ต้นชาทองเป็นไม้ประดับขนาดกลาง
มีลำต้นสูงได้ถึง 2 เมตร
ทรงพุ่มกว้างได้มากกว่า 0.5 เมตร แตกกิ่งตั้งแต่ระดับลำต้นเหนือดิน
แตกกิ่งจำนวนมาก ลำต้นมีสีน้ำตาลปนเทา ผิวสากเล็กน้อย กิ่งอ่อนมีสีน้ำตาลดำ
กิ่งยาวได้มากกว่า 40 ซม.
2. ใบ
ใบ แตกออกเป็นคู่อยู่คนละข้างของกิ่ง
ระยะห่างแต่ละคู่ประมาณ 1-3 ซม.
ขึ้นกับอายุกิ่ง ใบมีลักษณะเรียวรี ยาวประมาณ 5 ซม.
กว้างประมาณ 1.5-2.5 ซม. ขึ้นอยู่กับอายุใบ โคนใบ
และปลายใบแหลม ใบอ่อนหรือยอดอ่อนบริเวณปลายกิ่งมีสีเหลืองทอง
ใบบริเวณโคนกิ่งมีสีเหลืองออกเขียวอ่อน
3. ดอก
ดอกชาทองออกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่ง 3-5 ช่อ
ช่อปลายมีขนาดใหญ่สุด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกประมาณ 8-20
ดอก
ช่อดอกปลายกิ่งมีจำนวนมากที่สุด แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบดอกสีม่วงอ่อน 5 กลีบ แต่ละกลีบยาวประมาณ 2.5 ซม.
กว้างประมาณ 1.5 ซม. มีโคนกลีบเชื่อมติดกัน แผ่นกลีบ
และขอบกลีบโค้งงอ ปลายกลีบโค้งมน กลางกลีบมีเส้นสีม่วงเข้ม 1 เส้น พาดผ่านจากโคนกลีบถึงปลายกลีบ ตรงกลางดอกมีลักษณะเป็นกรวย ประกอบด้วยเกสรตัวผู้
และเกสรตัวเมีย ดอกจะบานจากบริเวณโคนช่อไปหาปลายช่อ
4. ผล และเมล็ด
เมล็ด 1 เมล็ด
เกิดจากดอก 1 ดอก เมล็ดมีลักษณะทรงกลมขนาดเล็ก ผลอ่อนสีเขียว
ผลสุกสีเหลืือง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5-0.8 ซม.
เปลือกหุ้มเทล็ดบาง เมล็ดด้านในมีสีน้ำตาล มีเปลือกเมล็ดแข็ง
ประโยชน์จากเทียนทอง
1. ชาทองเป็นไม้ที่นำมาใช้ประโยชน์ในด้านไม้ประดับเป็นหลัก
เนื่องจากขยายพันธุ์ง่าย ทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆได้ดี แตกพุ่ม และใบตลอดปี
นิยมใช้ปลูกเพื่อการจัดสวน ปลูกเป็นแถวหน้าบาน ปลูกเป็นรั้ว ปลูกในกระถางบริเวณอาคาร
เป็นต้น
2. ชาทอง
นอกจากจะเป็นไม้ประดับแล้วยังถือเป็นไม้มงคลที่มีความเชื่อว่าจะช่วยเรียก
เงินเรียกทอง การค้าร่ำรวย ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
สรรพคุณชาทอง
• ผลสุก ใช้ต้มเป็นยาระบาย ยาแก้ท้องเสีย
การปลูกชาทองและการเพาะขยายพันธุ์
ชาทองตามธรรมชาติขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
แต่ปัจจุบันการขยายพันธุ์จะนิยมใช้วิธีการปักชำมากที่สุด รองลงมาเป็นการตอน
การปักชำจะใช้ขยายพันธุ์ได้ทั้งกิ่งขนาดใหญ่ และกิ่งขนาดเล็ก
แต่โดยทั่วไปจะใช้ปลายกิ่งยาวประมาณ 15-20 ซม.
ไม่นิยมใช้กิ่งใหญ่ยาว เพราะปักชำติดช้า และโอกาสติดน้อยกว่ากิ่งขนาดเล็ก
การปักชำจะปักชำใน ถุงเพาะชำขนาดเล็ก
ด้วยการใช้วัสดุเพาะระหว่างดินผสมกับขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วนดิน:ขี้เถ้า 1:1 โดยตัดปลายกิ่งยาว 15-20 ซม. นำมาปักชำ
และรดน้ำทุกวันพอชุ่ม จากนั้น ประมาณ 15-20 วัน
กิ่งจะแตกราก และตั้งตัวได้ และดูแลไปต่อประมาณ 2-3 เดือน
ให้แตกกิ่งใหม่ ก่อนนำลงปลูกในแปลง
ส่วนการตอน
เป็นวิธีการที่ใช้สำหรับการขยายพันธุ์เพื่อให้ได้ต้นใหม่ที่มีขนาดใหญ่
การปลูก
ต้นชาทองเป็นไม้ที่ชอบแสงจึงควรปลูกในที่โล่ง ไม่มีร่มไม้ใหญ่
โดยนิยมปลูกจากต้นกล้าจากการเพาะชำ อายุต้นกล้าประมาณ 2-3 เดือน ก่อนปลูกต้องเตรียมแปลงหรือบริเวณปลูกด้วยการพรวนดิน
และกำจัดวัชพืชเสียก่อน ระยะปลูกประมาณ 20-40 ซม.
ขึ้นกับขนาด และอายุต้นกล้า
การดูแล
ต้นชาทองเป็นไม้ที่ชอบแสง และดินชื้นไม่มาก จึงรดน้ำเพียง 2 วัน/ครั้ง พอชุ่ม แต่หากในช่วงฤดูแล้งที่อากาศร้อนจัด
ควรรดเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะต้นเทียนทองที่มีอายุน้อย ส่วนการใส่ปุ๋ย
ควรใส่ปุ๋ยคอกเพียงอย่างเดียวหรือใช้เศษใบไม้ ขีเถ้าแกลบโรยโคนต้นเท่านั้น
ไม่ควรใช้ปุ๋ยเคมี โดยเฉพาะปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้ใบมีสีเขียวสดมาก
ใบมีสีเหลืองทองน้อยลง รวมถึงการได้รับแสงมากจะทำให้ใบเทียนทองมีสีเขียวมากขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น